สารบัญ
- CONOCO เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO
- Gmax เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ HEPA H11 รุ่น AP-001
- Honeywell เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM2.5
- YAMADA เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น C1 HEPA
- Anitech เครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่น SCAP01-WH
- Trapo Motion-Sensing Air Purifier เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น Classic
- Clair B1 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ แบบพกพา
- JVC เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น KS-GA100
- Wimanair เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น K05A
- Philips GoPure เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น GP3211
10 อันดับ เครื่องฟอกอากาศในรถ ยี่ห้อไหนดี
1. CONOCO เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ C6 PRO
Conoco C6 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์แบบพกพา ช่วยให้คุณได้ฟอกอากาศบริสุทธิ์ เพื่อรถยนต์ส่วนตัวของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยพลังเทอร์โบ (Turbo Mode) พัดลมนำเข้าจากญี่ปุ่นที่ทั้งเงียบและกินไฟน้อยลง กำจัดเชื้อโรค ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียสลายกลิ่นอับชื้นในอากาศ ตลอดจนสามารถฆ่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็วทันใจ คุณจึงสามารถวางใจและเตรียมรับอากาศที่บริสุทธิ์ภายในรถของคุณได้ทันทีที่เครื่องเริ่มทำงาน

คุณสมบัติ
- มีเซ็นเซอร์ตรวจจับความเป็นมลพิษในอากาศ พร้อมแสดงสถานะหน้าเครื่อง
- กำจัดฝุ่น ฝุ่นPM2.5 ในอากาศได้จริง (ทดสอบก่อนผลิตจริง) * กำจัดเชื้อโรค ไร้ฝุ่น แบคทีเรียในอากาศ บางชนิด
- ไส้กรอง HEPA Filter 3M กรองตั้งแต่อนุภาคใหญ่ถึงเล็ก
- พัดลมนำเข้าจากญี่ปุ่นที่ทั้งเงียบและกินไฟน้อยลง
- กำจัดเชื้อโรค ฆ่าเชื้อไวรัส เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียสลายกลิ่นอับชื้นในอากาศ ตลอดจนสามารถฆ่าเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้อย่างรวดเร็วทันใจ
ข้อสังเกต
- พื้นที่ทำงาน 21-30 ลูกบาศก์เมตร
- การชาร์จ ช่องเสียบบุหรี่ / ช่อง USB
- เสียงขณะเครื่องทำงาน 40-50dB (A)
- การไหลเวียนของอากาศ 21-30 ลูกบาศก์เมตร / ชั่วโมง
2. Gmax เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ HEPA H11 รุ่น AP-001
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Gmax HEPA H11 รุ่น AP-001 ออกแบบมาเพื่อช่วยให้บรรยากาศในรถยนต์สะอาดและสดชื่น ด้วยการใช้เทคโนโลยี HEPA H11 ซึ่งสามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก แบคทีเรีย เชื้อโรค และสารพิษต่างๆ ที่มีอยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมีฟังก์ชันการกรองที่สามารถกรองทั้ง PM2.5 และกลิ่นไม่พึงประสงค์ ทำให้การเดินทางในรถยนต์ของผู้ใช้สะดวกและปลอดภัยมากยิ่งขึ้น

คุณสมบัติ
- กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เพื่ออากาศและกลิ่นที่สะอาดบริสุทธิ์ สดชื่น
- เครื่องฟอกอากาศพกพา 2in1 ใช้งานได้ทั้งในรถยนต์, โต๊ะทำงาน
- เครื่องจะปิดอัตโนมัติ หากดับเครื่องยนต์และเริ่มใหม่เมื่อสตาร์ท
- ไส้กรองอากาศ HEPA Filter กรองฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ประหยัดพื้นที่ ประหยัดไฟ ประหยัดพลังงาน กินไฟแค่ 3W
ข้อสังเกต
- เสียงรบกวน: < 30dB
- ที่ชาร์จ USB ช่องจุดบุหรี่
- เหมาะสำหรับใช้งานใน พื้นที่ ≤ 10 ตารางเมตร
3. Honeywell เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ กรองฝุ่น PM2.5
Honeywell เครื่องฟอกอากาศแบบเคลื่อนที่ มาพร้อมกับประสิทธิภาพการฟอกอากาศสูง ด้วยแผ่นกรอง HEPA ที่มีประสิทธิภาพการฟอกอากาศที่ 99%สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก 2.5 ไมครอน (PM2.5) ระบบการกรอง PRE-FILTER คัดกรองอนุภาคขนาด 0.3 um อายุการใช้งานที่ยาวนาน ถึง 360 ชั่วโมง

คุณสมบัติ
- มีไฟแสดงผลการใช้งานของแผ่นกรอง ไฟเตือนสีฟ้าใช้งานปกติ และไฟเตือนสีแดงเมื่อไส้กรองหมดอายุ
- ได้รับการรับรองจากผู้เชียวชาญด้านภูมิแพ้ และระบบทางเดินหายใจจากสถาบัน ECARF
- ประสิทธิภาพในการฟอกอากาศด้วยแผ่นกรอง 2 ขั้นตอน Activated Carbon + HEPA
- ปลอดภัยกับสุขภาพ ไม่มีแสงรังสี, ไม่มีประจุไฟฟ้า, ไม่มีสารเคมี
- กรองฝุ่นละอองขนาด PM2.5 ถึงเล็กกว่า PM0.3
ข้อสังเกต
- เหมาะสำหรับพื้นที่ 3 ตารางเมตร (หรือภายในห้องโดยสารรถยนต์)
- อายุการใช้งาน มากถึง 360 ชั่วโมง
- ความดังเสียง น้อยกว่า 49 เดซิเบล
4. YAMADA เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์กรองฝุ่น PM2.5 ใช้ได้ทั้งในรถ และ ในห้อง รุ่น C1 HEPA
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ YAMADA รุ่น C1 HEPA ออกแบบมาเพื่อกรองฝุ่น PM2.5 และสารมลพิษในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะใช้ในรถยนต์หรือในห้อง โดยใช้เทคโนโลยี HEPA ที่สามารถกรองฝุ่นละอองขนาดเล็ก เชื้อโรค และสารพิษต่างๆ ได้ดี ช่วยให้การเดินทางและการใช้ชีวิตในพื้นที่ปิดสะอาดและปลอดภัยยิ่งขึ้น เครื่องรุ่นนี้มีการออกแบบที่ทันสมัยและใช้งานง่าย สามารถเชื่อมต่อกับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์หรือใช้พลังงานจากไฟฟ้าในบ้านเพื่อการใช้งานที่สะดวก นอกจากนี้ยังมีระบบกรองที่ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์และสารก่อภูมิแพ้

คุณสมบัติ
- ไส้กรองคาร์บอน ช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นบุหรี่ และกลิ่นอับ มีส่วนช่วยลดอาการภูมิแพ้ได้
- แผ่นกรอง HEPA กรองสารก่อภูมิแพ้ เชื้อไวรัส แบคทีเรีย ฝุ่นละอองขนาด 0.3 ไมครอนหรือ PM2.5
- ปล่อยไอออนประจุลบ เพื่อจับอนุภาคที่ปนเปื้อนในอากาศให้ตกสู่พื้น
- ฟอกอากาศให้บริสุทธิ์ สลายฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM 2.5
ข้อสังเกต
- สำหรับพื้นที่ไม่เกิน 10 ตารางเมตร
- ทำงานเบา ไม่มีเสียงรบกวน ใช้งานง่ายแค่กดปุ่มเดียว
- กระทัดรัด พกพาสะดวก สามารถพกติดรถหรือไปทำงานในสถานที่ต่างๆได้
5. Anitech เครื่องฟอกอากาศในรถ รุ่น SCAP01-WH
เครื่องฟอกอากาศในรถ Anitech รุ่น SCAP01-WH เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยกรองอากาศในรถให้สะอาดและปลอดภัย โดยใช้เทคโนโลยีที่สามารถกรองฝุ่นละออง แบคทีเรีย และสารมลพิษต่างๆ ที่มีในอากาศในรถยนต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มาพร้อมกับฟังก์ชันการควบคุมที่สะดวกสบายด้วยปุ่มกดแบบ Touch screen ที่ทำให้ผู้ใช้สามารถตั้งค่าและควบคุมเครื่องได้ง่ายดาย ทั้งยังออกแบบให้มีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ไม่เกะกะพื้นที่ในรถยนต์

คุณสมบัติ
- ใช้เทคโนโลยีการกรองที่มีประสิทธิภาพ ช่วยกำจัดฝุ่นละออง แบคทีเรีย เชื้อโรค และสารมลพิษต่างๆ ที่มีในอากาศในรถยนต์
- มีการควบคุมที่สะดวกด้วยปุ่มกดแบบสัมผัส (Touch screen) ที่ใช้งานง่าย
- มีการออกแบบที่กะทัดรัดและทันสมัย สามารถติดตั้งในรถยนต์ได้อย่างสะดวก ไม่เกะกะพื้นที่ภายใน
- ช่วยขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในรถ เช่น กลิ่นบุหรี่ กลิ่นอาหาร หรือกลิ่นอับ ทำให้บรรยากาศในรถสดชื่น
ข้อสังเกต
- ระดับเสียง: <35dB(A)
- สำหรับห้องขนาด 5 - 10 ตร.ม.
- ปรับระดับความแรงลมได้ 2 ระดับ
- หัวเสียบแบบ Car Charger และ adaptor
6. Trapo Motion-Sensing Air Purifier เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น Classic
เครื่องฟอกอากาศ Oxtra Motion-Sensing ออกแบบมาเพื่อให้คุณและคนที่คุณรักปลอดภัยจากอากาศที่ปนเปื้อน ไม่ว่าจะในรถยนต์ ที่ทำงาน หรือที่บ้าน! ด้วยเทคโนโลยีการตรวจจับการเคลื่อนไหวขั้นสูง กำจัดอากาศที่ไม่บริสุทธิ์ในพื้นที่ที่จำกัดด้วยการโบกมือของคุณ

คุณสมบัติ
- มีประสิทธิภาพในการกำจัดมลพิษทางอากาศ ละอองเกสร แบคทีเรีย เชื้อโรค และอนุภาคในอากาศที่เป็นอันตรายอื่นๆ ได้ถึง 99.9%
- ใช้แผ่นกรอง HEPA 13 ที่กำจัดอนุภาคในอากาศ แบคทีเรีย และเชื้อโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพถึง 99.9%
- ป้องกันอาการหอบหืดและอาการแพ้ด้วยการกรองสารก่อภูมิแพ้ในอากาศ เช่น ละอองเกสร ฝุ่น และสะเก็ดผิวหนังของสัตว์
- โบกมือหนึ่งครั้งเพื่อเปิดเครื่องไปที่โหมด Eco โบกสองครั้งเพื่อเปลี่ยนเป็นโหมดพลังงาน และโบกครั้งที่สามเพื่อปิดเครื่อง
ข้อสังเกต
- เสียงรบกวนในการทำงานต่ำเพื่อการรบกวนน้อยที่สุด
- Hepa 13 ตัวกรองเกรดทางการแพทย์
- สายชาร์จ Type-C
7. Clair B1 เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ แบบพกพา
เครื่องออกแบบด้วยแผ่นกรองนาโน E2F (แผ่นกรองอิเล็กเตรต) เป็นการปรับปรุงเทคโนโลยีการกรองอากาศ (เทคโนโลยีที่เหนือกว่าแผ่นกรอง HEPA) ที่รวมอยู่ในเครื่องฟอกอากาศรถยนต์ AP100 การออกแบบตัวกรอง E2F ช่วยให้เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ 99.9% ของสารขนาดนาโน (จากฝุ่น PM2.5-2.5 b im ถึงอนุภาคขนาดเล็ก 0.1 ไมโครเมตร – เส้นผ่านศูนย์กลางไมครอน)

คุณสมบัติ
- มีเทคโนโลยีใหม่ที่สมบูรณ์โดยการรวมพลาสม่าไอออไนเซอร์และตัวกรอง E2F Plasma Ionizer ตั้งอยู่บนช่องอากาศเข้าและสร้างประจุบวกและลบในส่วนการชาร์จ
- แผ่นกรอง E2F สามารถกำจัดอนุภาค ultrafine (เล็กกว่า 0.1 ไมโครเมตร, μm), สารก่อภูมิแพ้, เกสร, เชื้อรา, ควันบุหรี่, ก๊าซไอเสียและอื่น ๆ
- แผ่นกรองถ่านกัมมันต์: แผ่นกรองคาร์บอนสามารถกำจัดกลิ่นและก๊าซที่มีผลต่อสุขภาพ
ข้อสังเกต
- ช้งานง่ายเพียงปุ่มเดียวควบคุมการทำงานด้วยพัดลม 3 ระดับ
- เทคโนโลยี Exclusive MAF พร้อมตัวกรอง 3 ระดับ
- จอแสดงผล LED
8. JVC เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น KS-GA100
เครื่องฟอกอากาศประสิทธิภาพสูงด้วยแผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน มอบอากาศสดชื่น กำจัดฝุ่น PM 2.5 ด้วยวัสดุที่ทำจากเทคโนโลยีเส้นใยขั้นสูง สามารถกรองฝุ่นขนาดเล็กมากๆ ละออง เกสรดอกไม้ ควัน แบคทีเรียและเชื้อราที่ลอยอยู่ในอากาศ กลิ่นอับ และกลิ่นต่างๆ ภายในรถยนต์

คุณสมบัติ
- กำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 ด้วยตัวกรอง HEPA กรองฝุ่นละเอียดถึง2.5 ไมครอนด้วยอัตราการดักจับถึง 99.5%
- ทำงานรวดเร็ว เพียง 5 นาที สามารถฟอกอากาศภายในรถยนต์ ในพื้นที่ 10 m3
- ควบคุมการทำงานด้วยการเคลื่อนไหว เพียงโบกมือเหนือเครื่องฟอกอากาศ
- กำจัดกลิ่นอับ กลิ่นควัน โดยการปล่อยประจุลบ 6 ล้านประจุต่อวินาที
- พัดลมความเร็วสูง ดูดอากาศจากทุกทิศทาง
ข้อสังเกต
- เครื่องมีขนาดเล็ก กะทัดรัด ไม่เกะกะพื้นที่ภายในรถยนต์
- กรองฝุ่นขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน
9. Wimanair เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น K05A
เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ Wiman K05A ออกแบบมาเพื่อฟอกอากาศในรถให้สะอาด สดชื่น และไร้มลพิษ ด้วยระบบการกรองที่มีประสิทธิภาพ ช่วยกำจัดฝุ่นละออง PM2.5 เชื้อโรคและสารมลพิษต่างๆ ในอากาศ ทำให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารหายใจได้สะดวกและปลอดภัย นอกจากนี้ยังสามารถขจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นบุหรี่และกลิ่นอับภายในรถได้อย่างดีเยี่ยม ตัวเครื่องมีขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่ายเพียงเสียบกับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์หรือพอร์ต USB ซึ่งทำให้สามารถติดตั้งและใช้งานได้สะดวกในทุกการเดินทาง

คุณสมบัติ
- ช่วยกรองฝุ่นละออง ขนาดเล็ก PM2.5 รวมถึงสารมลพิษและเชื้อโรคต่างๆ ในอากาศในรถยนต์ ทำให้อากาศภายในรถสะอาดและปลอดภัย
- ช่วยขจัดทั้งฝุ่นละออง กลิ่นไม่พึงประสงค์ และสารอันตรายต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในรถ
- เครื่องมีขนาดเล็กและน้ำหนักเบา ทำให้สามารถติดตั้งได้ง่าย ไม่เกะกะพื้นที่ในรถยนต์
- ช่วยให้บรรยากาศในรถยนต์สดชื่น ไร้มลพิษและปราศจากกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นบุหรี่หรือกลิ่นอับ
ข้อสังเกต
- CADR 8m/Hr
- ใส้กรอง HEPA Refill ( เปลี่ยนได้ )
- เสียบกับช่องจุดบุหรี่ในรถยนต์หรือพอร์ต USB
10. Philips GoPure เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ รุ่น GP3211
เครื่องฟอกอากาศ GoPure 3211 ช่วยขจัดสารปนเปื้อนที่เกิดจากสารเคมีจำพวกก๊าซภายในรถของคุณ โดยมาพร้อมเทคโนโลยีสำคัญที่ช่วยกรองฝุ่นอนุภาคละเอียดขนาด PM2.5 ในอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ (Clean Air Delivery Rate – CADR) 15 ลบ.ม./ชั่วโมง เพื่อให้คุณได้สูดอากาศบริสุทธิ์ตลอดการเดินทาง

คุณสมบัติ
- เทคโนโลยีกรองอากาศ SelectFilte อันเป็นเอกลักษณณ์ของ Philips สามารถขจัดอนุภาคอย่าง PM2.5 ที่ดักจับภายในห้องโดยสารรถยนต์ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
- มาพร้อมชั้นกรอง HESA ซึ่งช่วยลดการปนเปื้อนของสารเคมีจำพวกก๊าซที่เป็นอันตรายภายในรถยนต์ของคุณ ด้วยกระบวนการดูดซับอันทรงพลังและและกระบวนการออกซิเดชัน
- สารจำพวกก๊าซที่อันตรายจะถูกกำจัดในอัตราการสร้างอากาศบริสุทธิ์ที่ 7 ลบ.ม./ชั่วโมง
ข้อสังเกต
- อัตราการส่งผ่านอากาศบริสุทธิ์ (CADR) ของ PM2.5 ที่ 15 ลบ.ม./ชั่วโมง
- เปิดและปิดการทำงานได้อัตโนมัติตามการสตาร์ทเครื่อง
ยี่ห้อ เครื่องฟอกอากาศในรถ ยอดนิยมในไทย
ข้อพิจารณาในการเลือก เครื่องฟอกอากาศในรถ
1. ประเภทของแผ่นกรอง (Filter Type):
- แผ่นกรอง HEPA (High-Efficiency Particulate Air): เป็นแผ่นกรองที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูง สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน เช่น ฝุ่น PM2.5 ละอองเกสร ขนสัตว์ เชื้อรา และแบคทีเรีย
- แผ่นกรองคาร์บอน (Activated Carbon Filter): ช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ เช่น กลิ่นอับ กลิ่นอาหาร กลิ่นควันบุหรี่ และสารเคมีต่างๆ
- แผ่นกรอง Pre-Filter: เป็นแผ่นกรองชั้นแรก ช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ เส้นผม และขนสัตว์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแผ่นกรอง HEPA
- เทคโนโลยีอื่นๆ: เช่น เทคโนโลยีพลาสม่าคลัสเตอร์ (Plasma Cluster) หรือไอออนลบ (Negative Ion) ช่วยกำจัดเชื้อโรคและลดกลิ่นอับ
2. ขนาดและพื้นที่การใช้งาน:
- ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีขนาดเหมาะสมกับพื้นที่ภายในรถยนต์ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการกรองอากาศทั่วถึง
- ตรวจสอบค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) ซึ่งเป็นค่าที่บ่งบอกถึงปริมาณอากาศที่เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองได้ในหนึ่งชั่วโมง ค่า CADR ที่สูงหมายถึงประสิทธิภาพในการกรองอากาศที่รวดเร็ว
3. ระดับเสียง:
- ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีระดับเสียงไม่ดังรบกวนขณะขับรถ โดยทั่วไปแล้ว ระดับเสียงที่ต่ำกว่า 50 เดซิเบล ถือว่าอยู่ในระดับที่ยอมรับได้
4. การติดตั้งและการใช้งาน:
- ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ติดตั้งง่ายและสะดวกในการใช้งาน เช่น สามารถวางในช่องวางแก้ว หรือติดตั้งกับช่องแอร์
- ตรวจสอบวิธีการเปลี่ยนแผ่นกรอง และความถี่ในการเปลี่ยนแผ่นกรอง
5. แหล่งพลังงาน:
- เครื่องฟอกอากาศในรถยนต์ส่วนใหญ่ใช้พลังงานจากช่องจุดบุหรี่ หรือพอร์ต USB
- บางรุ่นมีแบตเตอรี่ในตัว ทำให้สามารถใช้งานแบบไร้สายได้
6. คุณสมบัติเพิ่มเติม:
- บางรุ่นมีเซ็นเซอร์ตรวจจับคุณภาพอากาศ และแสดงผลด้วยไฟสีต่างๆ
- บางรุ่นมีโหมดการทำงานอัตโนมัติ ที่จะปรับระดับความแรงพัดลมตามคุณภาพอากาศ